เมซุต โอซิล Mesut Özil (German pronunciation: [ˈmeːzʊt ˈœzɪl], Turkish: [ˈmesut ˈøzil]; เกิดวันที่ 15 ตุลาคม 1988 ใน Gelsenkirchen) นักฟุตบอลทีมชาติเยอรมันเชื้อสายตุรกี สังกัดสโมสร Werder Bremen
Personal information | |||
---|---|---|---|
Full name | Mesut Özil | ||
Date of birth | 15 October 1988 | ||
Place of birth | Gelsenkirchen, West Germany | ||
Height | 1.82 m (6 ft 0 in)[1] | ||
Playing position | Attacking midfielder / Winger |
ในตอนแรก มีบางคนบอกว่าเขาตัวเล็กเกินไปที่จะลงเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพอย่างจริงๆ จังๆ แต่ตอนนี้ เมซุต โอซิล พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นแล้วว่าในเวลานี้ เขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่ทีมชาติเยอรมันจะขาดเสียมิได้
ชาลเก้ทีมในฝัน
อันเดรียส์ วิงค์เลอร์ คือผู้ประสานงานในเรื่องนักเตะเยาวชนของโร้ท ไวส์ เอสเซ่น ทีมลูกหนังในแคว้นรัวห์ร เขาหวนนึกไปถึงเด็กขี้อาย ผอมกะหร่อง แต่มีฝีเท้าและเทคนิคที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีความเร็วสูง และที่สำคัญ มีเท้าซ้ายที่สุดยอด ซึ่งเข้าสู่โปรแกรมฝึกนักเตะเยาวชนของ โร้ท ไวส์ เอสเซ่น ตอนอายุ 12 ขวบ เด็กคนนั้นฝันที่จะได้เล่นในทีมเยาวชนของทีมในบุนเดสลีกาอย่างชาลเก้มาตลอด แต่วิงค์เลอร์บอกว่า โค้ชของ ราชันสีน้ำเงิน มองเห็นปัญหาในตัวของโอซิล โดยบอกว่า "เมซุตพยายามเข้าทีมชาลเก้ให้ได้ แต่พวกนั้นบอกว่าเขาตัวเล็กและผอมเกินไป แต่เราก็พอใจที่ได้เขามาอยู่ในทีม"
วิงค์เลอร์ยังบอกอีกว่า โอซิลคือคนที่ชื่นชอบการหวดลูกหนังเป็นที่สุด เขาไม่ยอมให้คำวิจารณ์เรื่องรูปร่างมาเป็นอุปสรรคต่อการเล่นฟุตบอล และพยายามพัฒนาฝีเท้าตัวเองอยู่ตลอด แถมยังเป็นคนที่แทบจะไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องในสนามเลยด้วยซ้ำ "คุณสามารถโทรศัพท์ไปหาเขาตอนตีห้า แล้วบอกว่า ... "เฮ้ มาเล่นฟุตบอลกันเถอะ" ... ได้เลย" วิงค์เลอร์ว่าเอาไว้อย่างนั้น
ให้เห็นกันจะจะไปเลยว่าถนัดเท้าซ้าย
ก้าวสู่บุนเดสลีกา
โอซิลย้ายออกจากโร้ท ไวส์ เอสเซ่น ในปี 2005 และเข้าเป็นนักเตะเยาวชนของ ชาลเก้ได้สำเร็จ โดยข้อเสียเปรียบเรื่องรูปร่างของเขาถูกลืมไปเลย ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ราชันสีน้ำเงิน ในปี 2007 และได้ลงเล่นให้กับสโมสรในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกบางนัดด้วย
โอซิลย้ายออกจากโร้ท ไวส์ เอสเซ่น ในปี 2005 และเข้าเป็นนักเตะเยาวชนของ ชาลเก้ได้สำเร็จ โดยข้อเสียเปรียบเรื่องรูปร่างของเขาถูกลืมไปเลย ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ราชันสีน้ำเงิน ในปี 2007 และได้ลงเล่นให้กับสโมสรในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกบางนัดด้วย
การที่โอซิลได้อยู่ในทีมชุดสู้ศึกบุนเดสลีกาของชาลเก้นั้น ถือเป็นเรื่องที่เขาสมควรได้รับ แต่เขาไม่ได้ลงเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอเท่าที่ควร ส่งผลให้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับต้นสังกัดปัจจุบันอย่างแวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อเดือนมกราคม 2008 ซึ่งโอซิล ก็ได้รับโอกาสจาก นกนางนวล ให้ลงโชว์ฝีเท้าอย่างสม่ำเสมอ และดาวเตะร่างเล็กก็ตอบแทนด้วยการพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพฤดูกาลที่ผ่านมา แถมยังช่วยให้ทีมได้หลุดเข้าไปดวลกับเลเวอร์คูเซ่น ในรอบชิงเดเอฟเบ โพคาลอีกด้วย
ในเกมกับ "ห้างขายยา"ที่กรุงเบอร์ลิน ดาวเตะวัย 21 ปี ตอกย้ำถึงฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวทีบุนเดสลีกาของตัวเอง ด้วยการสปีดจากกลางสนามไปรับบอล ก่อนซัดด้วยเท้าซ้ายเต็มเหนี่ยวเป็นประตูชัยให้ทีมในนาทีที่ 57 โดยเจ้าตัวระบายความรู้สึกลงบนเว็บไซต์ส่วนตัวหลังเกมดังกล่าวว่า "ผมพอใจมากกับฤดูกาลที่ผ่านไป สำหรับผม การเล่นได้อย่างคงเส้นคงวาเป็นสิ่งสำคัญมาก และการส่งท้ายซีซั่นด้วยการคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล มันก็ยิ่งเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆ เลยทีเดียว"
โยอัคคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมัน
จะหนีบโอซิลไปบอลโลกอย่างแน่นอน
ขึ้นสู่ทำเนียบทีมชาติ
หลังจากคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลกับเบรเมนไม่ถึงเดือน โอซิลก็ได้โชว์ฟอร์มในรายการสำคัญๆ อีกครั้ง เมื่อเขาสวมเสื้อทีมชาติเยอรมันลงสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ที่สวีเดน ก่อนที่เจ้าตัวจะมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกด้วยสถิติไร้พ่าย โดย 8 ประตูที่พลพรรค อินทรีเหล็ก จูเนียร์ทำได้จาก 5 นัดนั้น โอซิลเป็นคนจ่ายให้เพื่อทำทะลวงตาข่ายได้ถึง 4 ลูก แถมยังยิงได้เองในเกมนัดชิงชนะเลิศกับอังกฤษ ด้วยลูกฟรีคิกจากระยะ 35 หลา พร้อมคว้าตำแหน่ง แมนออฟ เดอะ แมตช์ไปครองได้อย่างหมดจด
หลังจากคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลกับเบรเมนไม่ถึงเดือน โอซิลก็ได้โชว์ฟอร์มในรายการสำคัญๆ อีกครั้ง เมื่อเขาสวมเสื้อทีมชาติเยอรมันลงสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ที่สวีเดน ก่อนที่เจ้าตัวจะมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกด้วยสถิติไร้พ่าย โดย 8 ประตูที่พลพรรค อินทรีเหล็ก จูเนียร์ทำได้จาก 5 นัดนั้น โอซิลเป็นคนจ่ายให้เพื่อทำทะลวงตาข่ายได้ถึง 4 ลูก แถมยังยิงได้เองในเกมนัดชิงชนะเลิศกับอังกฤษ ด้วยลูกฟรีคิกจากระยะ 35 หลา พร้อมคว้าตำแหน่ง แมนออฟ เดอะ แมตช์ไปครองได้อย่างหมดจด
สำหรับเกมกับรัสเซียที่กรุงมอสโกนั้น ถือเป็นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดที่ 2 ที่ โอซิลได้รับโอกาสลงเล่น โดยนอกจากลูกที่ส่งให้โคลเซ่เผด็จศึกแล้ว โอซิลยังหวิดที่จะยิงได้เป็นลูกที่ 2 ในนามทีมชาติชุดใหญ่ หลังจากเคยยิงได้ในเกมกระชับมิตรกับแอฟริกาใต้มาแล้ว โชคร้ายที่บอลพุ่งชนคานจังเบอร์
โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน พูดถึงโอซิลว่า ดาวเตะร่างเล็กคนนี้ช่วยสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีมได้ และยังมีการจ่ายบอลแบบได้เสียให้ทีมได้ลุ้นทำประตูจากตำแหน่งมิดฟิลด์ได้บ่อยครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่เลิฟต้องการเมื่อทัวร์นาเมนต์ที่ แอฟริกาใต้เปิดฉากขึ้น และเลิฟก็ต้องขอบคุณด้วยที่โอซิลเลือกที่จะเล่นให้ อินทรีเหล็ก โดยไม่หันไปเล่นให้กับทีมชาติอื่นเสียก่อน
ก่อนหน้านี้ ความสำเร็จของโอซิลในเวทีบุนเดสลีกา ทำให้ทีมชาติตุรกีสนใจที่จะดึงเขาไปเล่นให้กับทัพ "ไก่งวง" เนื่องจากเจ้าตัวโตขึ้นมาในฐานะคนที่ถือ 2 สัญชาติ ทั้งตุรกีและเยอรมัน ซึ่งหมายความว่าเขามีสิทธิ์เล่นให้ทีมชาติตุรกีเช่นกัน แต่ในที่สุดแล้ว ศึกชิงนางครั้งนั้นก็สิ้นสุดลงเมื่อเจ้าตัวมุ่งมั่นเต็มร้อยที่จะเล่นให้ทีมชาติเยอรมันเท่านั้น
เป็นกำลังสำคัญในทีมชาติชุดเล็กที่ได้แชมป์ยุโรปปีนี้
ซีซั่นอันสดใสก่อนถึงฟุตบอลโลก
จากการที่ อินทรีเหล็ก คว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้โอซิลสามารถมีสมาธิกับเกมในบุนเดสลีกาได้อย่างเต็มที่ โดยผลงานของเบรเมนในเวลานี้ถือว่ายอดเยี่ยมพอตัวรั้งอันดับ 4 ของตาราง แถมยังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกเดเอฟเบ โพคาล และยังเป็นจ่าฝูงของกลุ่มในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีกอีกด้วย
หลังจากสตาร์ดังอย่าง ดีเอโก้ อำลาเบรเมนไป โอซิลก็ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในเกมรุกของทีมอย่างเต็มตัว ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหลังคู่กองหน้า ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับตัวเองมากๆ "ผมดีใจมากที่ผมทำผลงานได้ดีในการสร้างเกมรุกป้อนให้ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ กับ มาร์โค มาริน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เบรเมนดูเหมือนว่าจะเป็นไปด้วยดีมากๆ" โอซิลว่าเอาไว้บนเว็บไซต์ส่วนตัว
ในฟุตบอลโลก 2010
เค้าถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดตลุยฟุตบอลโลก 2010 โดยทำประตูแรกได้ในนัดที่ 3 ที่เขาลงแข่ง จากเกมส์พบทีมชาติกาน่า โดยยิงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดของเข้า จากขอบเส้น 18 หลา ช่วยให้เยอรมันเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม เละเขาเป็นส่วนสำคัญของทีมในนัดที่ถล่มอังกฤษในรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยทำประตูที่ 4 ให้กับทีมเอาชนะด้วยผลการแข่งขัน 4-1
ประตูในทีมชาติ
# | Date | Venue | Opponent | Score | Result | Competition | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1. | 5 September 2009 | BayArena, Leverkusen, Germany | South Africa | 2–0 | 2–0 | Friendly | |||||
2. | 23 June 2010 | Soccer City, Johannesburg, South Africa | Ghana | 1–0 | 1–0 | 2010 FIFA World Cup | |||||
3. | 27 June 2010 | Mangaung/Bloemfontien, South Africa | England | 4–1 | 4–1 | 2010 FIFA World Cup | |||||
Club performance | League | Cup | Continental | Total | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Season | Club | League | Apps | Goals | Apps | Goals | Apps | Goals | Apps | Goals |
Germany | League | DFB-Pokal | Europe | Total | ||||||
2006–07 | Schalke | Bundesliga | 19 | 0 | 1 | 0 | 1 | 0 | 21 | 0 |
2007–08 | 11 | 0 | 1 | 1 | 4 | 0 | 16 | 1 | ||
2007–08 | Werder Bremen | 12 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | 14 | 1 | |
2008–09 | 28 | 3 | 5 | 2 | 14 | 0 | 47 | 5 | ||
2009–10 | 31 | 9 | 5 | 0 | 10 | 2 | 46 | 11 | ||
Career Total | 101 | 13 | 12 | 3 | 31 | 2 | 144 | 18 |
Latest News
Optimism over injured Germans
Thursday 24 June 2010
Low fears Rooney factor
Thursday 24 June 2010
Germany trio face fitness battle
Wednesday 23 June 2010
Low not feeling the heat
Wednesday 23 June 2010
Ozil: I'm not afraid of anybody
Tuesday 22 June 2010
Videos
GHA:GER - Mesut OEZIL
Goal (Germany), 60'
Johannesburg, Soccer City Stadium
Wednesday 23 June 2010